ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic
Community–AEC)
1. นโยบายและเป้าประสงค์
1.1
รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศกับอาเซียนในลำดับต้นๆ
ในฐานะมิตรประเทศที่มีความใกล้ชิดกับไทยมากที่สุด ไม่ว่าในด้านภูมิศาสตร์ความใกล้เคียงกันด้านสังคมและวัฒนธรรม
รวมไปถึงการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งมีมายาวนานและเหนียวแน่นที่สุด
1.2
เป้าหมายในการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนคือ
การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวที่แข็งแกร่งและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในภูมิภาค
รวมทั้งไทยด้วย
1.3 จากเดิมที่อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับ4ของไทยในปี2536ผลจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ผ่านมาทำให้อาเซียนกลายเป็นคู่ค้าอันดับ
1ของไทยตั้งแต่ปี2551ปัจจุบันอาเซียนยังเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่งของไทยนำหน้าตลาดเดิมอย่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
และยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องสถิติมูลค่าการค้ารวมล่าสุดระหว่างไทยและอาเซียนในปี
2556อยู่ที่1แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยยังคงได้ดุล
1.4
ในการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อเดือนตุลาคม 2546 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
ผู้นำอาเซียนได้ลงนามในปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน (Bali Concord II) เห็นชอบให้จัดตั้งประชาคมอาเซียน (ASEAN Community)ซึ่งประกอบด้วย 3
เสาหลัก คือ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนต่อมาในการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่13เมื่อเดือนมกราคม2550ที่เมืองเซบู
ประเทศฟิลิปปินส์ผู้นำอาเซียนได้ลงนามในปฏิญญาเซบูว่าด้วยการเร่งรัดการจัดตั้งประชาคมอาเซียนให้บรรลุผลจากเดิมที่กำหนดไว้ใน
ปี2563(ค.ศ. 2020) เป็นปี2558(ค.ศ. 2015)โดยในส่วนของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
อาเซียนได้จัดทำแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint)
เป็นแผนงานบูรณาการการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจต่างๆที่จะนำไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายในปี2558
(ค.ศ. 2015)
1.5 กรมอาเซียน ทำหน้าที่ เป็นสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ (National
ASEAN Secretariat) โดยเป็นไปตามข้อบทที่ 13
ของกฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter)
ซึ่งกำหนดให้แต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนจัดตั้งสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติเพื่อช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้
3 เสาหลักไปในทิศทางเดียวกันนอกจากนี้
ประเทศไทยได้จัดตั้งคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานและมีกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเสาเศรษฐกิจ
1.6
ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทำยุทธศาสตร์ประเทศในภาพรวม ซึ่งให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมและการใช้โอกาสจากการเป็นประชาคมอาเซียนในปี
2558 อีกด้วย
2. ข้อตกลงและพันธกรณีในการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
2.1 อาเซียนได้จัดทำแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC
Blueprint) เป็นแผนงานบูรณาการ การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจต่าง
ๆที่จะนำไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายในปี 2558 (ค.ศ.
2015) AECBlueprint ประกอบด้วย4ส่วนหลัก
ซึ่งอ้างอิงมาจากเป้าหมายการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนตามแถลงการณ์บาหลี
ฉบับที่2
(Bali Concord II)ได้แก่
(1)
การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวโดยให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ
การลงทุน และแรงงานมีฝีมืออย่างเสรี และการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรีมากขึ้น
รวมทั้งการส่งเสริมการรวมกลุ่มสาขาความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอาเซียนให้เป็นรูปธรรม
(2) การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอาเซียนซึ่งให้ความสำคัญกับประเด็นด้านนโยบายที่จะช่วยส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ
เช่น กรอบนโยบายการแข่งขันของอาเซียน การคุ้มครองผู้บริโภค
สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นโยบายภาษี
และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (การเงิน การขนส่ง เทคโนโลยีสารสนเทศ และพลังงาน)
(3) การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาคซึ่งเป็นการส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกและลดช่องว่างของระดับการพัฒนาระหว่างสมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของอาเซียน
เช่น การสนับสนุนการพัฒนา
SMEs และการเสริมสร้างขีดความสามารถผ่านโครงการต่าง ๆ
เช่นความคิดริเริ่มเพื่อการรวมกลุ่มของอาเซียน (Initiative for ASEAN
Integration : IAI) เพื่อลดช่องว่างด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
(4) การบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลกเน้นการปรับประสานนโยบายเศรษฐกิจของอาเซียนกับประเทศภายนอกภูมิภาคเพื่อให้อาเซียนมีท่าทีร่วมกันอย่างชัดเจน
เช่นการจัดทำเขตการค้าเสรีของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาต่าง ๆ รวมทั้งการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายในด้านการผลิต/จำหน่ายภายในภูมิภาคให้เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก
2.2 กลไกหลักในการขับเคลื่อนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้แก่
การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SeniorEconomicOfficials’Meeting-SEOM) และการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซีย(ASEANEconomicMinisters’Meeting-AEM)
และเพื่อให้การจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้ประเทศสมาชิกอาเซียนรวมทั้งประเทศไทยมีพันธกิจต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย
โดยเฉพาะการดำเนินงานให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกันซึ่งมีความตกลงสำคัญ
3 ฉบับ ที่ขับเคลื่อนในเรื่องนี้คือ
2.2.1 ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Trade in Goods
Agreement–ATIGA)
กำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนลดภาษีสินค้าในบัญชีลดภาษีให้ครบถ้วนภายในปี2553และใช้มาตรการที่มิใช่ภาษีศุลกากรได้เฉพาะเรื่องที่จำเป็นโดยกำหนดให้ลดภาษีสินค้าทุกรายการเหลือร้อยละ
0 ยกเว้นสินค้าอ่อนไหวและสินค้าอ่อนไหวสูงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม2553 สำหรับประเทศสมาชิกอาเซียนเดิม 6 ประเทศ และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 สำหรับประเทศสมาชิกอาเซียนใหม่ 4ประเทศ (CLMV) ในส่วนของไทย กาแฟ มันฝรั่ง มะพร้าวแห้ง
และไม้ตัดดอกอยู่ในบัญชีสินค้าอ่อนไหวซึ่งลดภาษีเหลือร้อยละ 5 ทั้งนี้ ยังมีเรื่องเกี่ยวกับมาตรการกีดกันที่มิใช่ภาษี
(Non-Tariff Measures–NTMs) ที่อาเซียนจะต้องเร่งดำเนินการต่อไป
2.2.2 กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน (ASEAN Framework
Agreement on Service–AFAS) กำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทยอยเปิดตลาดบริการซึ่งตาม AEC Blueprint กำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเปิดตลาดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นสามารถถือหุ้นได้ถึงร้อยละ
70 ยกเว้นสาขาที่อ่อนไหว ปัจจุบันนักลงทุนอาเซียนถือหุ้นได้ร้อยละ
70ในสาขา e-ASEAN (ICT) สาขาสุขภาพสาขาท่องเที่ยวและสาขาการบิน
ซึ่งทั้ง 4 สาขาถือเป็นสาขาบริการเร่งรัด (Priority
Integration Sector: PIS) สำหรับสถานะล่าสุดจะมีการลงนามข้อผูกพันชุดที่
9 ภายใต้ความตกลงว่าด้วยการบริการของอาเซียน (AFAS) ในเดือนสิงหาคม 2557
2.2.3 ความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียน (ASEAN Comprehensive Investment
Agreement-ACIA) กำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเปิดเสรีและให้การปฏิบัติเยี่ยงคนชาติในสาขาที่ตกลงกัน
5 ประเภทคือ เกษตร ป่าไม้ เหมืองแร่และอุตสาหกรรมการผลิต
รวมทั้งให้ความคุ้มครอง การส่งเสริม และการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนแก่ประเทศสมาชิกอื่นใน
5 สาขาที่กล่าวมาข้างต้นด้วยปัจจุบันความตกลงด้านการลงทุนของอาเซียน
(ACIA) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28
มีนาคม 2556 โดยยังสามารถแก้ไขรายการข้อสงวนได้ภายใน 12 เดือน นับจากวันที่ ACIA มีผลบังคับใช้
2.3 สรุปได้ว่าอาเซียนสามารถบรรลุเป้าหมายในการเปิดเสรีด้านการค้าสินค้าได้อย่างน่าพอใจนับจากAFTAซึ่งถือเป็นช่วงแรกสำหรับพัฒนาการของAECจนถึงปัจจุบันและจากจุดนี้จนถึงปี
2558 อาเซียนจะต้องเร่งสานต่อการเปิดเสรีด้านการค้าบริการ
การลงทุน การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีรวมถึงการปรับกฎระเบียบให้มีความสอดคล้องกัน
เพื่อการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างสมบูรณ์
กองเศรษฐกิจกรมอาเซียน มิถุนายน 2557
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.mfa.go.th
คำถาม !!
1. เป้าหมายในการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนคือ
??
2. ปัจจุบันอาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับที่เท่าไหร่ของไทย
??
3. กรมอาเซียน
ทำหน้าที่ ??
4. เป้าหมายการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน
ได้แก่ ??
5. การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว
เป็นอย่างไร ??
6. ความสำคัญกับประเด็นด้านนโยบายที่จะช่วยส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ
เช่นอะไรบ้าง ??
7. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมีอะไรบ้าง
??
8. กลไกหลักในการขับเคลื่อนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เป็นอย่างไร ??
9. กาแฟ มันฝรั่ง มะพร้าวแห้ง
และไม้ตัดดอกอยู่ในบัญชีสินค้าอ่อนไหวซึ่งลดภาษีเหลือร้อยละเท่าไหร่ ??
10. อาเซียนสามารถบรรลุเป้าหมายในการเปิดเสรีด้านการค้าสินค้าได้อย่างน่าพอใจได้อย่าไร
??
คำตอบ
!!
1. การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวที่แข็งแกร่งและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในภูมิภาค
รวมทั้งไทยด้วย
2. อันดับ 1
3. เป็นสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ
(National ASEAN Secretariat)
4. 1) การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว
2) การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอาเซียน
3) การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค
4) การบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก
2) การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอาเซียน
3) การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค
4) การบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก
5. โดยให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน และแรงงานมีฝีมืออย่างเสรี
และการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรีมากขึ้น
รวมทั้งการส่งเสริมการรวมกลุ่มสาขาความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอาเซียนให้เป็นรูปธรรม
6. กรอบนโยบายการแข่งขันของอาเซียน
การคุ้มครองผู้บริโภค สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นโยบายภาษี
และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
7. การเงิน การขนส่ง
เทคโนโลยีสารสนเทศ และพลังงาน
8. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SeniorEconomicOfficials’Meeting-SEOM)
และการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซีย
(ASEANEconomicMinisters’Meeting-AEM) และเพื่อให้การจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้ประเทศสมาชิกอาเซียนรวมทั้งประเทศไทยมีพันธกิจต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย
9. ร้อยละ 5
10. นับจากAFTAซึ่งถือเป็นช่วงแรกสำหรับพัฒนาการของAECจนถึงปัจจุบันและจากจุดนี้จนถึงปี 2558
อาเซียนจะต้องเร่งสานต่อการเปิดเสรีด้านการค้าบริการ การลงทุน
การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีรวมถึงการปรับกฎระเบียบให้มีความสอดคล้องกัน
เพื่อการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างสมบูรณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น