การเตรียมความพร้อมของไทยสู่การเป็นประชาคมอาเซียน
1.
เป้าหมายการสร้างประชาคมอาเซียนภายในปี 2558
1.1
อาเซียนมีเป้าหมายจะก้าวไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในวันที่ 31 ธันวาคม
2558โดยวิสัยทัศน์ร่วมของผู้นำอาเซียน
คือการสร้างประชาคมอาเซียนที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงมีกฎกติกาที่ชัดเจน
และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเมื่อปี 2551
อาเซียนได้จัดทำกฎบัตรอาเซียนซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญอาเซียนเพื่อวางกรอบทางกฎหมายและโครงสร้างองค์กร
1.2
ประชาคมอาเซียนประกอบด้วยสามเสาหลัก ได้แก่ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
(กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยประสานงานหลัก) ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยประสานงานหลัก) และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
(กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยประสานงานหลัก)
โดยอาเซียนได้จัดทำแผนงาน (Blueprint) สำหรับการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในแต่ละเสา
ซึ่งผู้นำอาเซียนได้รับรองเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2552
ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 14 ในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน
1.3 ในปี 2552
ไทยได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับความเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Connectivity) เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นของประชาคมอาเซียน
และนำไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
อีกทั้งเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนในเวทีโลก
และผู้นำอาเซียนได้รับรองแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงในอาเซียนในการประชุมสุดยอดครั้งที่
17 ณ กรุงฮานอย ในปี 2553 ซึ่งระบุความเชื่อมโยงใน 3 รูปแบบ ได้แก่
ความเชื่อมโยงด้านกายภาพ อาทิ การพัฒนาเครือข่ายด้านคมนาคมความเชื่อมโยงด้านสถาบัน
อาทิ การทำให้กฎระเบียบด้านการข้ามแดนต่างๆ มีความสอดคล้องกัน
และความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน เพื่อให้ประชาชนในอาเซียนรู้จักกันและเข้าใจกันมากขึ้น
2. นโยบายรัฐบาล
2.1
รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนตามที่ได้ประกาศต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2554
ที่จะนำประเทศไทยไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 อย่างสมบูรณ์
โดยสร้างความพร้อมและความเข้มแข็ง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
และการเมืองและความมั่นคง
โดยรวมถึงการเร่งดำเนินการตามข้อตกลงในการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง
ตลอดจนการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งภายในและภายนอกภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมอีกหลายประการเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
2.2
การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนเป็นวาระแห่งชาติ
นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้มีการบูรณาการยุทธศาสตร์ การทำงาน
และแผนงานการเตรียมความพร้อมของไทยสู่ประชาคมอาเซียน และได้เป็นประธานการประชุมในเรื่องนี้ด้วยตนเอง
3. การเตรียมความพร้อมของไทย
3.1 ไทยต้องสร้างความพร้อมและความเข้มแข็ง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ
สังคมและวัฒนธรรม และการเมืองและความมั่นคง
รวมทั้งเร่งดำเนินการตามข้อผูกพันในการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนปี 2558ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง
ตลอดจนการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งภายในและภายนอกภูมิภาค
ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกประเทศในอาเซียนตกลงกันไว้แล้ว
เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและส่งเสริมบทบาทของไทยในอาเซียนต่อไป
3.2 ไทยยังอยู่ระหว่างดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมอีกหลายประการเพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน
เพื่อรักษาและเพิ่มพูนความสามารถในการแข่งขันของไทย ดังนั้น
การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกส่วนราชการและทุกภาคส่วน
รวมทั้งภาคประชาชน
3.3
กลไกที่เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน
3.3.1 การประชุมเชิงปฏิบัติการการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558
(ASEAN Workshop)ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดยมีคณะรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงทั้งหมดเข้าร่วม
โดยมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นฝ่ายเลขานุการ
และได้จัดประชุมฯ แล้ว 3 ครั้ง เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2555 วันที่ 25
ตุลาคม 2555 และวันที่ 7 มกราคม 2556และนำไปสู่การจัดทำยุทธศาสตร์ประเทศ
ซึ่งครอบคลุมถึงแผนงานด้านการเตรียมความพร้อมของไทยสู่ประชาคมอาเซียนในด้านต่าง ๆ
ของทุกส่วนราชการด้วย
กลไก ASEAN Workshop เน้นการบูรณาการการทำงานระหว่างส่วนราชการ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อให้มีการปรับโครงสร้างต่าง ๆ
ภายในประเทศเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของไทยและรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3.3.2
กลไกในระดับชาติเพื่อรองรับการดำเนินการในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ได้แก่
-
คณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ
ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน เป็นกลไกประสานงานระดับนโยบาย
เพื่อบูรณาการการดำเนินการของหน่วยงานไทยและเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนปี
2558 อย่างเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพ
และกระทรวงการต่างประเทศได้รวบรวมแผนงานสำหรับการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนปี
2558ของส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อให้รัฐบาลเห็นภาพรวมของสิ่งที่ต้อดำเนินการเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนในปี
2558 ซึ่งครอบคลุมถึงการดำเนินการตามพันธกรณีของไทยตามแผนการจัดตั้งประชาคมของแต่ละเสา
(Blueprint)
การสร้างความตระหนักรู้แก่ภาคส่วนต่าง ๆ ฯลฯ
-
คณะอนุกรรมการว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน
จัดตั้งขึ้นภายใต้คณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ
โดยมีรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน
เพื่อประสานงานและติดตามให้มีการดำเนินการตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของไทย
-
คณะอนุกรรมด้านการประชาสัมพันธ์ประชาคมอาเซียน
จัดตั้งขึ้นภายใต้คณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ
โดยมีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นประธาน เพื่อบูรณาการงานการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจและการสร้างความตระหนักรู้เรื่องอาเซียนแก่ทุกภาคส่วนของสังคม
เพื่อให้ประชาชนไทยมีส่วนร่วมกับการสร้างประชาคมอาเซียนและสามารถใช้โอกาสจากประชาคมอาเซียนได้อย่างเต็มที่
-
คณะกรรมการ/อนุกรรมการสำหรับการดำเนินการตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในแต่ละเสา
โดยหน่วยงานที่เป็นผู้ประสานงานหลักของแต่ละเสาเป็นประธานเสาการเมืองและความมั่นคง
ได้แก่
คณะกรรมการดำเนินการเพื่อจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงโดยมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน
เสาเศรษฐกิจ ได้แก่ คณะอนุกรรมการดำเนินการตามแผนงานไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน และสำหรับเสาสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่
คณะกรรมการแห่งชาติด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นประธาน
4. บทบาทของกระทรวงการต่างประเทศ
4.1
กระทรวงการต่างประเทศมีบทบาทหลักใน 2 เรื่อง คือ
1)
ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานหลัก (focal point) ดูแลภาพรวมเรื่องอาเซียน
ในฐานะสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติตามกฎบัตรอาเซียน
2) ทำหน้าที่เป็น focal point ในการประสานงานของเสาการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
4.2
ในฐานะหน่วยงานประสานหลักดูแลภาพรวมของการดำเนินการในกรอบอาเซียนของไทยกระทรวงการต่างประเทศใช้กลไกของคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน
ในการประสานงานระดับนโยบาย เพื่อบูรณาการการดำเนินการของหน่วยงานไทยและเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี
2558 อย่างเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพ
โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติเป็นระยะ
เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของหน่วยราชการต่าง ๆ
รวมทั้งประสานการดำเนินงานในประเด็นที่คาบเกี่ยวระหว่างทั้งสามเสา
4.3 ในฐานะ focal point ในการประสานงานของเสาการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
กต. เป็นประธาน คณะกรรมการดำเนินการเพื่อจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคง
เพื่อทบทวนความคืบหน้าล่าสุดในส่วนของไทยในการดำเนินการเพื่อเป็นไปตามแผนงานจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
รวมทั้งพิจารณาสาขาความร่วมมือที่ไทยควรผลักดันในการปฏิบัติตามแผนงานจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
อาทิ การแก้ไขปัญหายาเสพติด การจัดการเรื่องภัยพิบัติ และการต่อต้านการค้ามนุษย์
5. การดำเนินงานที่ผ่านมาเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน
5.1 การเตรียมความพร้อมภาครัฐ
กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญกับการดำเนินการในหลายมิติ
ทั้งในการให้แนวคิดแก่ส่วนราชการเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน
การพัฒนาบุคลากรและการสร้างศักยภาพแก่ข้าราชการ
และการส่งเสริมการปฏิบัติตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในทั้งสามเสา
โดยที่ผ่านมา ได้มีการผลักดันดำเนินการในประเด็นต่างๆ อาทิ
•
ผลักดันให้มีการจัดตั้งกลุ่มงานหรือส่วนงานที่รับผิดชอบประเด็นเกี่ยวกับอาเซียนโดยตรง
(ASEAN Unit) ในแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้สามารถดำเนินการและเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
•
ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาข้าราชการพลเรือน
เพื่อจัดโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาเซียนแก่ข้าราชการ พัฒนาทักษะการทำงานและเจรจาระหว่างประเทศ
รวมทั้งทักษะภาษาอังกฤษและภาษาเพื่อนบ้านให้แก่ข้าราชการ
•
จัดทำหลักสูตรอาเซียน เพื่อฝึกอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน
ให้แก่ข้าราชการหรือพนักงานหน่วยงานของรัฐ (ระดับไม่ต่ำกว่าชำนาญการ) หรือหน่วยงานภาคเอกชน
(ระดับไม่ต่ำกว่าผู้จัดการ) ซึ่งปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้าน
โดยจัดฝึกอบรมรุ่นแรกระหว่างวันที่ 13-26 สิงหาคม
2555 ทั้งนี้ การฝึกอบรมประกอบด้วยการบรรยายความรู้เกี่ยวกับอาเซียนจากผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ
รวมถึงการศึกษาดูงานภายในประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นจุดเชื่อมโยงหรือเป็นจุดยุทธศาสตร์ของไทยต่ออาเซียนในด้านต่างๆ
และการดูงานในต่างประเทศ ได้แก่ สำนักเลขาธิการอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา
•
ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในเรื่องการผลักดันให้มีการแก้ไขและปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้ประชาคมอาเซียนในทั้งสามเสา
เพื่อให้กฎหมายทันสมัยและเอื้อให้ไทยสามารถแข่งขันและใช้โอกาสจากประชาคมอาเซียนได้อย่างเต็มที่
5.2 การเตรียมความพร้อมภาคเอกชน กระทรวงพาณิชย์ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของภาคเอกชน รวมทั้ง SMEs ในการสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
และได้สร้างเครือข่ายและการปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนในสาขาต่าง ๆ โดยที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการในประเด็นต่างๆ
อาทิ
• เร่งดำเนินการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
โดยได้มีการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ ตลอดจนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคSMEs ของไทย โดยที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการต่าง ๆ อาทิ
• จัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อให้ข้อมูลและคำปรึกษากับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจในการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจ
• สร้างเครือข่ายการให้ความรู้ของศูนย์บริการข้อมูลประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในจังหวัดต่าง
ๆ ทั่วประเทศ โดยจะทยอยเปิดให้บริการได้ในช่วงต้นปี
2555 ตลอดจนสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับท้องถิ่น
อาทิ หอการค้าจังหวัด อบจ./อบต. รวมทั้งสถาบันการศึกษา
เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในระดับชุมชนและเยาวชน
• เผยแพร่และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเตรียมการรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนผ่านสื่อต่าง
ๆ และนิทรรศการเคลื่อนที่ อาทิ วีดีทัศน์ สิ่งพิมพ์ และเว็บไซต์ โดยเน้นการใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย
• จัดประชุม เวทีการมีส่วนร่วม และการบรรยาย/เสวนา ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งสมาคมธุรกิจสาขาที่เกี่ยวข้อง
เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ ตลอดจนรับฟังความคิดเห็น
ปัญหาและอุปสรรค จากภาคเอกชน
5.3 การเตรียมความพร้อมภาคประชาชน กระทรวงการต่างประทศให้ความสำคัญกับการสร้าง
ความตระหนักรู้และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียน
และได้ร่วมมืออย่าง
ใกล้ชิดกับจากหน่วยราชการ
ทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์
และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาเซียนในประชาชนทุกภาคส่วนและในทุกระดับ
โดยที่ผ่านมา
ได้มีการดำเนินการที่สำคัญหลายประการ
อาทิ
• การจัดกิจกรรมอาเซียนสัญจรไปยังจังหวัดต่างๆ ใน 15 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ภูเก็ตฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี
นครนายก จันทบุรี กาญจนบุรี สมุทรสาคร ลพบุรี ชลบุรี ระยอง ตาก เชียงรายสุราษฎร์ธานี
และอุดรธานี
• การจัดกิจกรรมวันอาเซียน ในวันที่ 8 สิงหาคม ของทุกปี โดยในปี 2556 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่
กต. จัดขึ้น ประมาณ 1,000 คน และมีนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ
กว่า 70 แห่งทั่วประเทศเข้าร่วม
• การจัดทำสื่อเผยแพร่ (สิ่งพิมพ์
เว็บไซต์ รายการโทรทัศน์ วิทยุ)
• การจัดสัมมนาและส่งวิทยากรบรรยายแก่ครู นักเรียน สถาบันภาครัฐ และสถาบันการศึกษา
• การจัดค่ายเยาวชนภาษาอังกฤษ
6.
การดำเนินงานข้างหน้า
• ส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด
ทั้งในกรอบทวิภาคี อนุภูมิภาค และอาเซียน รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือเพื่อลดช่องว่างด้านการพัฒนา
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนต่อไป
• เร่งรัดการดำเนินการด้านความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะการสร้างระเบียงเศรษฐกิจต่าง
ๆเพื่อส่งเสริมที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของไทยในภูมิภาค และขยายความเจริญรุ่งเรืองไปยังพื้นที่ต่าง
ๆ
• ภาครัฐยังคงต้องเร่งดำเนินการภายในให้สอดคล้องกับข้อตกลงในการเป็นประชาคมอาเซียนเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและส่งเสริมบทบาทของไทยในอาเซียนต่อไป
รวมทั้งปรับโครงสร้าง และปรับปรุงกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการค้าและการลงทุนในไทย
และส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของไทย
• พัฒนาศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจของไทยให้ได้มาตรฐานและมีขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดอาเซียนและตลาดโลก
• ผลักดันการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจและผู้ประกอบการของอาเซียน เพื่อสร้างความร่วมมือ
และลดการแข่งขันระหว่างกัน
• ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงข้อมูลอาเซียนได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนที่อาจได้รับผลกระทบ เช่น ภาคการเกษตร และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล
โดยจัดทำข้อมูลที่จำเป็นในภาษาที่เข้าใจง่ายในการเผยแพร่ และใช้ช่องทางภูมิภาคและท้องถิ่นในการเผยแพร่ข้อมูลมากยิ่งขึ้น
เช่น การให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอ และองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นเป็นสื่อกลางในการถ่อยทอดข้อมูลไปยังประชาชนในท้องที่ของตน
ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของท้องถิ่นแต่ละแห่ง โดยกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยอย่างใกล้ชิด
กองยุทธศาสตร์และความร่วมมืออาเซียน
กรมอาเซียน
ตุลาคม 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น